ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

โรเบิร์ต พีล

เซอร์ รอเบิร์ต พีล (Sir Robert Peel) เป็นนักการเมืองแห่งสหราชอาณาจักรในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีถึงสองสมัย ในปี พ.ศ. 2377-8 และ พ.ศ. 2384-9 มีชื่อเสียงจากผลงานหลายด้าน อาธิเช่น การก่อตั้งหน่วยตำรวจนครบาลในลอนดอน การวางรากฐานพรรคอนุรักษนิยมในอังกฤษ และการยกเลิกกฎหมายอากรข้าวโพดซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญในระบบการค้าเสรีในปัจจุบัน

พีล เกิดที่เมืองบิวรีในอังกฤษเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2331 ในตระกูลชนชั้นกลาง เขาได้รับการศึกษาจากโรงเรียนแฮร์โรว์ (Harrow School) และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Christ Church, University of Oxford) โดยจบปริญญาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งวิชาคลาสสิกและคณิตศาสตร์ก่อนที่จะเดินตามรอยบิดาเข้าสู่สนามการเมือง

พีลได้รับเลือกเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคทอรีในเขต Cashel, Tipperary ในไอร์แลนด์ซึ่งในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2352 เนื่องจากเขตเลือกตั้งดังกล่าวถือเป็นฐานที่มั่นของพรรคทอรีอยู่แล้ว และพีลได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีไอร์แลนด์เซอร์อาร์เธอร์ เวลสลีย์ในขณะนั้นด้วย จึงชนะการเลือกตั้งอย่างไม่มีผู้ใดแข่งด้วย

พีลได้รับการยอมรับในวงการการเมืองอย่างรวดเร็ว เขาได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีไอร์แลนด์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในช่วงสิบปีถัดมา ในปี พ.ศ. 2360 เขาได้รับการเลือกเป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสภาฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้มาไม่ง่ายนัก

พีลได้รับการเลือกให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในคณะรัฐมนตรีซึ่งนำโดยเอิร์ลแห่งลิเวอร์พูลในปี พ.ศ. 2365 ในระหว่างนี้มีการรณรงค์ในไอร์แลนด์ให้เปิดโอกาสให้ชาวคาทอลิกมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ (Catholic Emancipation) แต่พีลต่อต้านการรณรงค์ครั้งนี้อย่างรุนแรงจนได้รับฉายาว่าพีลสีส้ม (Orange Peel) เมื่อลิเวอร์พูลลาออกนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือจอร์จ แคนนิ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการรณรงค์ครั้งนี้ พีลจึงได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนี้ต่อ

พีลกลับเข้ารับตำแหน่งเดิมอีกครั้งในปี 2371 ในรัฐบาลซึ่งนำโดยดยุกแห่งเวลลิงตัน ในปีเดียวกันแดเนีล โอคอนเนล ซึ่งเป็นชาวคาทอลิก ได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนจากไอร์แลนด์ จึงเป็นการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างหนัก เวลลิงตันจึงยอมเปลี่ยนกฎหมายดังกล่าวโดยช่วยเหลือในสภาฯโดยพีล พีลรู้สึกอึดอัดใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงลาออกจากการเป็นผู้แทนที่ม.อ๊อกซฟอร์ด ย้ายไปเป็นผู้แทนที่เวสต์เบอรี่แทน (ซึ่งหลังจากนั้นสองปี พีลย้ายไปที่แทมเวิร์ธ และเป็นผู้แทนเขตนั้นไปจนเขาถึงแก่อสัญกรรมในปี 2393)

ในปี 2372 พีลในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ริเริ่มจัดตั้งสำนักงานตำรวจนครบาลในกรุงลอนดอน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สก๊อตแลนด์ยาร์ด การจัดตั้งครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการลดอาชญากรรมในกรุงลอนดอน และระบบนี้ก็ได้กลายเป็นตัวอย่างสำหรับนำไปใช้กับระบบตำรวจในเมืองอื่นๆในอังกฤษด้วย ปัจจุบันชาวลอนดอนอาจเรียกตำรวจด้วยคำสแลงว่า บ๊อบบี้ หรือ พีลเลอร์ ซึ่งก็หมายถึงชื่อของพีลนั่นเอง

พระเจ้าจอร์จที่ 4 เสด็จสวรรคตในปี 2373 ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ในระหว่างนั้นมีการรณรงค์อย่างหนักให้มีการปรับปรุงระบบการเลือกตั้งที่ค่อนข้างล้าสมัยเนื่องจากในสมัยนั้นชนชั้นกลางและชั้นกรรมกรยังไม่มีสิทธิในการเลือกตั้ง พีลและพรรคทอรีซึ่งเสียชื่อไปมากจากการยกเลิกข้อห้ามชาวคาทอลิกไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ต้องการเสียชื่อไปมากกว่านี้จึงต่อต้ามการรณรงค์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ เป็นผลให้พรรควิกมีชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนั้น เปิดโอกาสให้เอิร์ลเกรย์เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 และทำการปรับปรุงระบบการเลือกตั้งครั้งใหญ๋ในปี 2375 (The Great Reform Act) หลังจากประสบความสำเร็จครั้งใหญ๋แล้วเอิร์ลเกรย์จึงลาออกจากตำแหน่งปูทางให้ไวเคานต์เมลเบิร์นขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน

พระเจ้าวิลเลียมที่ 4 ไม่ค่อยพอใจผลงานของเมลเบิร์นจึงปลดเขาออกจากตำแหน่งและให้พรรคทอรีจัดตั้งรัฐบาล เวลลิงตันปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งจึงรักษาการเพียงชั่วคราวรอให้พีลกลับมาจากอิตาลีเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พีลจึงกลายเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนธันวาคม 2377 แม้พรรคทอรีของเขาจะไม่มีเสียงข้างมากในสภาฯ ตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลมีดังนี้

เนื่องจากพีลมีเสียงข้างน้อยในสภา จึงทำให้ทำงานได้ลำบาก เขาจึงประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2378 ในการเลือกตั้งนี้พีลได้ออกจดหมายเปิดผนึกสำคัญถึงผู้มีสิทธิในเขตของเขา โดยรายละเอียดของจดหมาย Tamworth Manifesto นี้ได้กล่าวถึงการปรับปรุงการหลักการของพรรคทอรีใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการเลือกตั้ง โดยพีลได้นำแนวคิดหลักจากเอ็ดมุนด์ เบิร์กว่าการอนุรักษ์ที่ถูกต้องนั้นต้องยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างเพื่อเป็นพัฒนาการไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เกิดการต่อต้านอันรุนแรงจนเราไม่สามารถอนุรักษ์สิ่งนั้นไว้ได้อีกต่อไป การปรับปรุงครั้งทำให้พรรคทอรีซึ่งมีแนวคิดค่อนข้างออกแนวค้านหัวชนฝาอ่อนลงอย่างมาก โดยนักประวัติศาสตร์จึงถือจุดนี้เป็นจุดกำเนิดของพรรคอนุรักษนิยมในอังกฤษ

แม้ว่าการเลือกตั้งจะทำให้พรรคอนุรักษนิยมได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่พอที่จะได้เสียงข้างมากในสภาฯ แต่การแบ่งกลุ่มกันในฝ่ายค้านทำให้พีลยังคงทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป อย่างไรก็ดีได้มีการทำข้อตกลงกันในกลุ่มฝ่ายค้านที่บ้านลิชฟิลด์ (Lichfield House Compact) ทำให้พีลไม่สามารถทำงานได้อีกตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เขาจึงลาออกในวันที่ 8 เมษายนปี 2378 กลุ่มฝ่ายค้านจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยมีเมลเบิร์นเป็นนายกรัฐมนตรี

เมลเบิร์นลาออกจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2482 พีลได้รับการเสนอให้จัดตั้งรัฐบาล เขาตระหนักดีว่านี่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอีกครั้งเขาจึงเสนอให้พระนางเจ้าวิคตอเรียปลดนางสนองพระโอษฐ์ของพระองค์ซึ่งเป็นคนของกลุ่มวิค พระนางปฏิเสธ พีลจึงไม่ยอมรับตำแหน่งโดยเกรงว่ารัฐบาลจะไร้เสถียรภาพ ก่อให้เกิดช่วงว่างของรัฐบาล (Bedchamber Crisis) วิคตอเรียจึงต้องให้เมลเบิร์นกลับมาตั้งรัฐบาลเหมือนเดิม

เมลเบิร์นยุบสภาในปี 2384 ผลจากการเปลี่ยนแปลงภายในของพรรคในชวงหกปีก่อนหน้าทำให้พรรคอนุรักษนิยมได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น พีลจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง โดยมีตำแหน่งสำคัญดังต่อไปนี้

การกลับมาของพีลทำให้ ผู้แทนคนสำคัญของไอร์แลนด์อย่าง แดเนียล โอคอนเนลล์ ต้องกลับไปอยู่ในฝ่ายค้านอีกครั้ง หลังจากที่เขาสามารถทำให้ชาวคาทอลิกสามารถเข้ามารับตำแหน่งทางการเมืองได้แล้ว ครั้งนี้เขารณรงค์เพื่อยกเลิกพระราชบัญญัติรวมชาติ เพื่อให้ไอร์แลนด์ไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร เขาได้วางแผนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ที่เมืองคลอนทาฟ (Monster Meeting) ในเดือนตุลาคม 2386 หลังจากเกิดการชุมนุมนับแสนคนที่เมืองทารา พีลเกิดความกังวลว่าการชุมนุมที่คลอนทาฟนี้อาจจะก่อให้เกิดการนองเลือด จึงสั่งแบนการชุมนุมดังกล่าว โอคอนเนลล์ยังฝ่าฝืนจึงถูกจับในข้อหากบฏ ทำให้เหตุการณ์ในไอร์แลนด์สงบลงไปชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาต่อๆมา พีลจึงได้ดูแลนโยบายเกี่ยวกับไอร์แลนด์เป็นพิเศษซึ่งรวมไปถึงการปรับปรุงการใช้พื้นที่ในไอร์แลนด์เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมให้ดียิ่งขึ้น การเพิ่มค่าบำรุงให้กับโรงเรียนสอนศาสนาคาทอลิกเมย์นูธ การก่อตั้งมหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ถึงสามแห่งที่เบลฟาสต์ กอลเวย์ และคอร์ก

หนึ่งเหตุผลที่ทำให้กลุ่มวิกพ่ายแพ้การเลือกตั้งนั้นเกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ พีลแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณด้วยการเปลี่ยนระบบภาษีครั้งใหญ่ ด้วยความที่เขาเป็นคนที่เชื่อในหลักการค้าเสรีอยู่แล้ว เขาจึงให้ลดภาษีอากรการนำเข้าสินค้าเกือบทั้งหมด รวมไปถึงการลดอากรสินค้าต่างๆภายในประเทศซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นภาษีสำหรับคนจนอีกด้วยเพื่อให้ราคาของสินค้าถูกลง ทั้งนี้เขาได้ให้มีการริเริ่มใช้ระบบภาษีเงินได้ในช่วงปลอดสงครามเป็นครั้งแรกในอังกฤษในปี 2385 (Income Tax Act, 1842) โดยอัตราภาษีมีอัตราเดียวที่ เจ็ดเพนซ์ต่อปอนด์สำหรับรายได้ที่มากกว่า 150 ปอนด์ หรือประมาณ 2.9% การเปลี่ยนระบบครั้งนี้ทำให้รัฐบาลสามารถกลับมาอยู่ในสภาวะเกินดุลงบประมาณได้อีกครั้ง และทำให้พีลสามารถลดภาษีนำเข้าได้เพิ่มขึ้นอีกในปีถัดๆไป ทำให้อังกฤษเริ่มมุ่งเข้าสู่ระบบการค้าเสรีได้ตามที่เขาหวังไว้ นอกจากนี้รัฐบาลของพีลยังได้ผ่านพระราชบัญญัติควบคุมธนาคาร (Bank Charter Act, 1843) ในปี 2387 ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของระบบ gold standard ในคริสต์ศตวรรษที่สิบเก้าอีกด้วย

พีลได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติควบคุมโรงงาน (Factory Act, 1844) ซึ่งจำกัดการใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่าสิบสามปีให้ไม่สามารถทำงานได้เกินวันละหกชั่วโมง กฎหมายฉบับนี้ยังได้ให้มีการควบคุมความปลอดภัยและความสะอาดของโรงงานมากขึ้นอีกด้วย โดยบังคับให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตของพนักงานทุกคนเป็นครั้งแรก นอกจากกฎหมายฉบับนี้แล้ว รัฐบาลของพีลยังได้มีการออกกฎหมายควบคุมเหมืองถ่านหิน (Coal Mines Act, 1842) เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นของคนงานในเหมืองอีกด้วย

ในฤดูใบไม้ร่วง 2388 เกิดเหตุโรคระบาดในมันฝรั่งในไอร์แลนด์ ทำให้ไม่สามารถเก็บเกี่ยวมันฝรั่งซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวไอริชได้กว่า 60% ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักในไอร์แลนด์ซึ่งสุดท้ายแล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอดอาหารและโรคอหิวาต์ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการรับประทานทุกอย่างที่สามารถหาได้กว่าหนึ่งล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในแปดของประชากรทั้งหมดในไอร์แลนด์ในขณะนั้น รัฐบาลของพีลจึงตอบสนองด้วยการสั่งซื้อข้าวโพดมูลค่าหนึ่งแสนปอนด์มาจากอเมริกาเพื่อใช้เป็นอาหารทดแทนแต่ในขณะนั้น รัฐบาลของสหราชอาณาจักรมีกฎหมายเก็บอากรข้าวโพดที่นำเข้า จึงทำให้รัฐบาลต้องซื้อข้าวโพดในราคาที่แพงขึ้น พีลเองเห็นว่าไม่เป็นการดีที่จะต้องให้การช่วยเหลือส่วนนี้ตกเป็นภาระของประชาชนจึงมีความคิดที่จะยกเลิกอากรข้าวโพดเสีย

ในเมืองมกราคม 2389 พีลจึงเสนอให้มีการยกเลิกอากรข้าวโพด โดยค่อยๆลดอัตราอากรไปเรื่อยๆเป็นเวลาสามปีจนหมดในปี 2392 การประกาศครั้งนี้ก่อให้เกิดการแตกแยกครั้งใหญ่ในพรรคอนุรักษนิยม โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากชาวไร่นั่นไม่ต้องการให้มีการยกเลิกเนื่องจากต้องการปกป้องอาชีพของชาวไร่ซึ่งจะต้องพบกับปัญหาถ้าหากต้องแข่งราคากับข้าวโพดที่มีราคาถูกกว่าจากทางอเมริกา กลุ่มนี้นำโดย ลอร์ดจอร์จ เบนทิงค์ ดยุกแห่งบัคกิ้งแฮมเชียร์ และ ลอร์ดสแตนลีย์ กับ เบนจามิน ดิสราเอลี ซึงภายหลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ส่วนอีกฝ่ายของพรรคซึ่งนำโดย เซอร์เจมส์ เกรแฮม เอ็ดเวิร์ด คาร์ดเวล และ เอิร์ลแห่งแอเบอร์ดีน กับ วิลเลียม แกลดสตัน ซึ่งในอนาคตจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน

แม้ว่าครึ่งหนึ่งของรัฐบาลจะต่อต้านการยกเลิก พีลก็สามารถนำร่างพระราชบัญญัติผ่านสภาผู้แทนฯไปได้ด้วยการสนันสนุนจากฝ่ายค้าน ทั้งกลุ่มวิกซึ่งนำโดย ลอร์ด จอห์น รัสเซล กับ ไวเคานต์พาลเมอร์สตัน สองอนาคตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มแมนเชสเตอร์สกูลซึ่งนำโดย ริชาร์ด ค็อบเดน กับ จอห์น ไบรท์ ผู้มีชื่อเสียงจากการรณรงค์สนับสนุนระบบการค้าเสรีและเป็นผู้นำของสันนิบาตต่อต้านอากรข้าวโพด (Anti-Corn Law League) มาพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นร่างฯจึงผ่านสภาสามัญชนไปได้ด้วยคะแนนเสียง 327 ต่อ 229 ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2389 และยังสามารถผ่านสภาขุนนางไปได้ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้านายเก่าของพีลอย่างเวลลิงตันในวันที่ 25 มิถุนายน 2389

อย่างไรก็ดี การยกเลิกครั้งนี้ นักประวัติศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าเป็นเพราะวิกฤติในไอร์แลนด์โดยตรงเนื่องจากพีลใช้เวลายกเลิกอากรถึงสามปี และหากเขาต้องการทำไปเพื่อช่วยไอร์แลนด์จริงๆเขาน่าจะยกเลิดชั่วคราวมากกว่าถาวร ฉะนั้นจึงน่าจะเกิดจากเหตุผลประการอื่นมากกว่า เหตุผลที่น่าจะสำคัญที่สุดน่าจะเป็นการที่พีลเป็นคนที่เชื่อในระบบการค้าเสรีอยู่แล้วโดยเห็นได้ชัดจากการที่เขาได้ลดภาษีนำเข้าเป็นจำนวนมากและยังเปลี่ยนระบบภาษีเพื่อให้กระทบต่อราคาสินค้าน้อยที่สุด ทั้งนี้เขายังได้รับความกดดันจากสันนิบาต และนิตยสารอีโคโนมิสต์ซึ่งก่อตั้งเพื่อกดดันด้านนี้ ดังนั้นการยกเลิกน่าจะเกิดจากการที่พีลเชื่อว่าระบบการค้าเสรีจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ โดยมีวิกฤติในไอร์แลนด์เป็นตัวเร่งมากกว่า

การยกเลิกในครั้งนี้ทำให้ราคาของข้าวโพดในอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตซึ่งต้องพัฒนาระบบการเพาะปลูกให้ดียิ่งขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดโลก ทั้งนี้ระบบการค้าเสรียังได้กลายเป็นระบบหลักที่ใช้ในอังกฤษตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่สิบเก้าเป็นหลักการสำคัญในระบบการพาณิชย์ในปัจจุบันโดยเฉพาะประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกอีกด้วย การยกเลิกอากรข้าวโพดของพีลในครั้งนี้จึงถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจโลกเลยทีเดียวก็ว่าได้

แม้ว่าพรรคอนุรักษนิยมของพีลจะแตกออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ พีลก็สามารถยกเลิกอากรข้าวโพดได้สำเร็จด้วยคะแนนจากฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามพีลไม่โชคดีนักในการลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยในไอร์แลนด์ (Irish Protection of Life Bill) ในช่วงค่ำวันเดียวกันนั้นเอง โดยร่างได้รับคะแนนเสียง 219 ต่อ 292 โดยที่กลุ่มฝ่ายค้ายกลับไปลงคะแนนต่อต้านอีกครั้ง ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของรัฐบาลก็ลงเสียงไม่เห็นด้วยเช่นกัน พีลถือเหตุการณ์นี้เป็นคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจเขาจึงรอจนกฎหมายยกเลิกอากรข้าวโพดสามารถผ่ายสภาขุนนางไปก่อน และลาออกในวันที่ 29 มิถุนายน 2389 ลอร์ด จอห์น รัสเซลนำกลุ่มวิกตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

หลังจากพีลลงจากนายกรัฐมนตรีพรรคอนุรักษนิยมยังคงแตกเป็นสองส่วนต่อไป ส.ส.กลุ่มพีไลท์ เช่น เกรแฮม แอเบอร์ดีน และแกลดสตัน ยังคงติดตามพีลอย่างใกล้ชิดและยึดมั่นนโยบายอนุรักษนิยมแต่สนับสนุนระบบการค้าเสรี อีกกลุ่มหนึ่ง เช่น เบนทิงค์ และดิสราเอลี นั้นคงนโยบายอนุรักษ์หัวชนฝาต่อและยังมีความบาดหมางเป็นส่วนตัวกับพีลอีกด้วย ในระยะการเป็นฝ่ายค้านพีลทำหน้าที่ ส.ส. อย่างต่อเนื่องและยังได้นำกลุ่มพีไลท์ลงคะแนนเสียงช่วยฝ่ายรัฐบาลอีกในหลายๆกรณี อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัสเซลจะเสนอให้เขาเข้าร่วมรัฐบาลกับกลุ่มวิก ในปี 2392 พีลปฏิเสธและทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านต่อไป

วันที่ 29 มิถุนายน 2393 พีลได้รับอุบัติเหตุตกจากหลังม้าในระหว่างการขี่ขึ้นคอนสติติวชั่นฮิลล์ในลอนดอน พีลได้รับบาดเจ็บหนักเนื่องจากถูกม้าซึ่งตกใจเหยียบทับบนร่างของเขา พีลถึงแก่อสัญกรรมในอีกสามวันถัดมาในขณะที่เขามีอายุ 62 ปี

หลังจากการถึงแก่อสัญกรรม กลุ่มพีไลท์ยังคงเป็นอิสระต่อพรรคอนุรักษนิยมต่อไปโดยนำของ เซอร์ เจมส์ เกรแฮม และในปี 2395 กลุ่มพีไลท์ยังได้จัดตั้งรัฐบาลโดยนำของเอิร์ลแห่งแอเบอร์ดีน ในระหว่างนี้สมาชิกหลายคนกลับเข้าสู่พรรคอนุรักษนิยมอีกครั้ง แต่กลุ่มพีไลท์อยู่ไปจนถึงปี 2401 เมื่อแกนนำของกลุ่มอย่างแอเบอร์ดีนและแกลดสตันไปร่วมกับกลุ่มวิกและแนวร่วมหัวรุนแรงตั้งพรรคเสรีนิยมโดยมีหัวหน้าพรรคคือไวเคานต์พาลเมอร์สตันซึ่งก้าวขึ้นจัดตั้งรัฐบาลในปีถัดมา

จูเลีย พีล ภรรยาของเขาถึงแก่กรรมในปี 2402 ลูกชายของเขาสี่คนได้ก้าวเข้าสู่สนามการเมือง โดยลูกชายคนที่ห้าของเขายังได้รับการแต่งตั้งเป็นไวเคานต์พีลในปี 2438 ส่วนอีกสามคนยังได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านเซอร์อีกด้วย

ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ ? ปรัชญาการศึกษา ? ปรัชญาประวัติศาสตร์ ? นิติศาสตร์ ? ปรัชญาสังคมศาสตร์ ? ปรัชญาความรัก

สังคม ? สงคราม ? กฎหมาย ? ความยุติธรรม ? สันติภาพ ? สิทธิมนุษยชน ? การปฏิวัติ ? การดื้อแพ่ง ? ประชาธิปไตย ? สัญญาประชาคม

อนาธิปไตย ? อำนาจนิยม ? อนุรักษนิยม ? เสรีนิยม ? อิสรนิยม ? ชาตินิยม ? สังคมนิยม ? ประโยชน์นิยม ? ทฤษฎีความขัดแย้ง ? ทฤษฎีความเห็นหมู่

เพลโต ? โสกราตีส ? อริสโตเติล ? ขงจื๊อ ? นักบุญออกัสติน ? นักบุญโทมัส อควีนาส ? มาเกียเวลลี ? ฮอบส์ ? ล็อก ? รูโซ ? มงแต็สกีเยอ ? วอลแตร์ ? อดัม สมิธ ? โรเบิร์ต พีล ? เอ็ดมันด์ เบิร์ก ? มิล ? แฟรงคลิน ? ไลบ์นิซ ? คานท์ ? ทอโร ? มหาตมา คานธี


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301